วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วิเคราะห์ข่าว


จับเครื่องสำอางปลอมขายผ่านเน็ตกว่า  30  ล้านบาท


           ดีเอสไอร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ทลายเครือข่ายลักลอบขายเครื่องสำอาง น้ำหอม เลียนแบบยี่ห้อดังผ่านทางอินเทอร์เน็ต มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

           เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้จับกุม 
นายส้มโอ กุลสงคราม ซึ่งเป็นผู้ค้าและเจ้าของเว็บไซต์ www.bevershops.com ได้เปิดจำหน่ายเครื่องสำอาง  น้ำหอม เครื่องหนัง และนาฬิกาปลอมยี่ห้อดังต่างๆ จำนวนกว่า 20,000 ชิ้น พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง และสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์หลายรายการ ทั้งกระเป๋า  เสื้อผ้า เข็มขัด แว่นตา และนาฬิกาเพราะความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว  ทำให้มีผลกระทบในหลายๆด้านทั้งทางตรงและทางอ้อม  คือสร้างความเสียหายให้กับประชาชน เป็นอันตรายต่อสุขภาพ  ข้อมูลอาจมีสรรพคุณเกินจริง  หลอกหลวงประชาชน ที่เสียหายไปมากกว่านั้นคือ สร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศชาติ  เนื่องจากคนภายนอกประเทศจะมองว่าประเทศนี้ไม่มีความซื่อสัตย์และไม่น่าไว้วางใจ  ทำให้ไม่อยากมาเที่ยวเมืองไทยเพราะกลัวโดนหลอกลวงส่งผลกระทบไปยังภาคธุรกิจการท่องเที่ยวไทย เพราะแค่การกระทำของคนส่วนน้อย ทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบและที่มากกว่านั้นคือความไว้วางใจจากนักท่องเที่ยวจะลดน้อยลง ทำให้เกิดปัญหาต่างๆมากมาย


          มูลค่าความเสียหายในครั้งนี้มากกว่า 30 ล้านบาท   ซึ่งผู้ต้องหาเป็นผู้ค้ารายใหญ่ทางอินเทอร์เน็ตจำหน่ายสินค้าปลอมผ่านทางเว็บไซต์มาเป็นเวลานาน  โดยที่ลืมนึกถึงความเสียหายของผู้อื่นทำให้มูลค่าความเสียหายสูงถึงหลักสิบล้านบาทจากเหตุการณ์ทำให้เห็นถึงการใช้งานของอินเตอร์เน็ตในทางที่ไม่ถูกต้องและผิดกฎหมาย ส่งผลให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายเพียงเพราะความคิดในด้านการค้าขาย แบบผิดๆ



วิเคราะห์ข่าว

          จากการที่ได้อ่านข่าว ผมคิดว่าเป็นการกระทำที่ผิดที่ผิดกฎหมาย ไม่มีคุณธรรมจริยธรรมเพราะเป็นการหลอกหลวงประชาชน ละเมิดลิขสิทธ์ของบริษัท  ใช้อินเตอร์เน็ตไปในทางที่ผิด ไม่เกิดประโยชน์และยังสร้างความเสียหายให้กับประชาชนกับประเทศของเรา ทำให้ผมได้ตื่นตัวมากยิ่งขึ้นเพราะได้ทราบรูปแบบของการหลอกหลวงของผู้กระทำความผิดในอีกวิธีหนึ่ง         เพราะฉะนั่นการสั่งซื้อของทางอินเตอร์เน็ต เราควรเลือกบุ๊คมาร์กเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ เลือกใช้วิธีชำระเงินที่มีความปลอดภัย ควรดูข้อมูลของผู้ขาย ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าไปเยอะจึงมีอาชญากรไซเบอร์ที่ต้องการข้อมูลบัตรเครดิต หมายเลขประจำตัวสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์ ข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้าออนไลน์ เราควรระมัดระวังการสั่งซื้อของทางอินเตอร์เน็ตให้ดีเพราะมันเป็นภัยใกล้ตัวสำหรับผู้ที่ใช้อินเตอร์เน็ตและนักช้อปผ่านอินเตอร์เน็ตทั้งหลาย



ที่มาของข่าว


วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เด็กชายเกื้อกูล กองแก้ว



...จากวันนั้น...ถึงวันนี้...





วันจันทร์ที่ 4 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2534 เวลา 21:04 นาที
เด็กชายเกื้อกูล กองแก้ว ได้ลืมตามองดูโลกใบนี้ พ่อกับแม่ผมตั้งชื่อผมว่า เชลล์ ผมได้เกิดมาเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่สาว สองคน ในครอบครัวผมเรามีกันอยู่ 5 คน
พ่อ แม่ พี่สาวคนโต พี่สาวคนกลาง และผมน้องชายคนสุดท้อง
พ่อผมชื่อนายทวี กองแก้ว
แม่ผมชื่อนางอารีย์ กองแก้ว
พี่สาวคนโตผมชื่อชื่นกมล กองแก้ว
พี่สาวคนกลางผมชื่อชลธิชา กองแก้ว
ครอบครัวผมอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 8/5 หมู่ 5 ตำบลท่าอยู่ อำเภอตะกั่วทุ่ง
จังหวัดพังงา 82140
ผมได้เริ่มเรียนอนุบาลในโรงเรียนบ้านต้นม่วงเมื่ออายุ 3 ขวบ
เมื่ออายุผมครบ 7 ขวบ ผมได้เข้าศึกษาในโรงเรียนวัดดิตถารามจน
จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 
ผมได้เข้าศึกษาต่อโรงเรียนท้ายเหมืองวิทยาจนจบชั้นมัธยม 
และศึกษาต่อชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนดีบุกวิทยายน
จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6




         ในช่วงชีวิตม.ปลาย ผมเป็นเด็กผู้ชายที่ชอบเล่นกีฬา จึงใช้ชีวิตช่วงม.ปลายเล่นกีฬาเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การเรียนไม่ค่อยจะดีนัก จึงไม่เคยคิดใฝ่ฝันที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่อยู่ไกลจากบ้านมากนัก แต่ด้วยพี่สาวของผมทั้งสองคน เค้าทั้งสองตั้งใจเรียน ประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งด้านการเรียน และด้านการงาน ผมจึงตัดสินใจเข้าสอบมหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒเป็นที่แรก เลือกคณะพลศึกษาเพราะผมชอบด้านกีฬาจึงคิดว่าตัวเองน่าจะมีความรู้พอที่จะศึกษาเล่าเรียนในคณะนี้ได้ ผมได้ติดคณะพลศึกษา เอกพลศึกษา ผมจึงตัดสินใจเรียนที่นี้ โดยไม่สมัครสอบที่อื่นเลย



  
    จากประสบการณ์ใช้ชีวิตมหาวิทยาลัย 3 ปี สอนผมหลายๆ อย่างทั้งการใช้ชีวิตในสังคม การใช้ชีวิตตัวคนเดียว การใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อน การรู้จักเคารพผู้อาวุโสกว่า รู้จักพี่รู้จักน้อง มหาวิทยาลัยไม่ได้ให้แต่ความรู้ แต่ยังสอนให้เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ห่างจากบ้านมาให้สามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องมีพ่อกับแม่ช่วยเหลือเหมือนอยู่ที่บ้าน ผมจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้ดีที่สุด เพื่อความภาคภูมิใจของพ่อแม่ และถ้าผมได้มีโอกาสเป็น "คุณครู" ผมจะให้ความรู้ สั่งสอนให้ศิษย์ทุกคนเป็นคนดี. 


ขอบคุณครับ
นายเกื้อกูล กองแก้ว คณะพลศึกษา เอกพลศึกษา 
มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ ประสานมิตร