FREESTYLE
ฟรีสไตล์
คำว่า "ฟรีสไตล์"
เป็นคำที่เรียกกันติดปาก เพราะถ้าจะเรียกให้ถูกต้อง ท่านี้มีชื่อว่า "crawl
stroke" (อ่านว่า
ครอล สโตรค) ที่เรียกกันว่า
ฟรีสไตล์ก็เพราะคุณสามารถว่ายท่าอะไรก็ได้ที่คิดว่าเร็วที่สุดเพื่อให้ถึงขอบสระก่อนคนอื่น
โดยท่าที่นิยมใช้คือ crawl stroke ทำไมท่านี้จึงมีความเร็วสูงที่สุดน่ะหรือ
เป็นเพราะท่านี้เป็นท่าที่ร่างกายมีความเพรียวลู่น้ำมากกว่าท่าอื่น ๆ รวมทั้ง
การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งท่านก็สามารถจะว่ายได้อย่างง่ายดาย
และในกระบวนการสอนว่ายน้ำก็จะสอนท่านี้เป็นท่าแรก
การใช้แขนท่าฟรีสไตล์
(Freestyle
Arm Action)
1. การว่ายน้ำทุกท่ายกเว้นท่ากบ
จะต้องใช้แขนและมือเป็นตัวขับ เคลื่อนถึง 70 % หรือมากกว่า
ดังนั้นแขนจึงเปรียบเสมือนไม้พาย ที่จะช่วยให้ร่างกายไปข้างหน้าได้
และในท่าฟรีสไตล์นั้น มีลักษณะการใช้แขนที่มีความต่อเนื่องกันมากที่สุด
โดยการว่ายให้มีความเร็วและถูกต้องนั้น ทำได้ดังนี้1. เมื่อคุณยืดแขนไปด้านหน้าจนสุดแล้ว
แขนของคุณต้องชิดกับหู
2. ต่อจากนั้นให้คุณกดมือลง
พร้อมกับโก่งแขนโดยการยกข้อศอกโดยแรงที่จะส่งตัวคุณนั้นจะออกมาจากไหล่
3. ดันแขนท่อนล่างให้ผ่านไปใต้ลำตัว
นิ้วทุกนิ้วเรียงชิดติดกัน
4. ดันน้ำจนกระทั่งแขนของคุณตึงพอดี
สามารถตรวจสอบได้ โดยมือของคุณจะผ่านไปถึงต้นขา
5. ยกแขนขึ้น โดยงอข้อศอก
แล้ววาดแขนมาด้านหน้า วางมือลงน้ำ กดศอกแล้วยืดแขนออกไป
ข้อควรจำ
1. คุณต้องดันน้ำไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
2. เมื่อคุณจะวางแขนลงน้ำเพื่อว่ายต่อไป
พยายามอย่าให้แขนฟาดน้ำ ให้ลากศอกและมือแทงลงน้ำไปด้านหน้าอย่างนิ่มนวล
3. เมื่อมือคุณลงน้ำแล้ว
อย่าให้มือชี้ลงไปที่พื้นสระ จงบังคับมือและแขนให้ชี้ไปยังเป้าหมาย คือ
ด้านหน้าของคุณ โดยการยืดแขนออกไปขณะที่มือลงน้ำ ไม่ใช่จิ้มมือลงไปในน้ำ
การใช้ขาท่าฟรีสไตล์ (Freestyle Leg
Action)ในการใช้ขาของท่าฟรีสไตล์
จะเตะขาในลักษณะเตะสลับขึ้นลง ซ้ายขวา โดยที่จะต้องส่งแรงเตะมาจากสะโพก
ไม่ใช่เตะจากหัวเข่า โดยในการเตะขานั้น
ข้อเท้าและหัวเข่าต้องมีความพลิ้วไม่เกร็งเป็นอันขาดจังหวะของการเตะขาท่าฟรีสไตล์มีดังนี้
How
to Swim : How to Swim the Freestyle Stroke
" การเตะขาที่ถูกวิธี จะช่วยทำให้คุณว่ายน้ำได้เร็วและดีขึ้น
เพราะมันจะช่วยให้การทรงตัวของร่างกายคุณสมบูรณ์แบบ "
12345678910จังหวะทั้งหมดเป็นไปโดยต่อเนื่องกันไม่ขาดตอน สังเกตดูว่า
ในภาพไม่ได้เพียงแต่งอเข่าแล้วเตะลงน้ำเท่านั้น แต่เขายังใช้แรงจากสะโพกเข้ามาช่วยด้วย
พูดง่าย ๆ ก็คือ เวลาคุณเตะขาท่าฟรีสไตล์นั้น คุณต้องขยับทั้งขา ยกตัวอย่าง เช่น
ให้สะโพกของคุณเป็นมือ และขาของคุณเป็นเชือก
ถ้าคุณสะบัดมือเชือกทั้งเส้นก็จะวิ่งตามกันไปทั้งหมด แต่แรงจริง ๆ
ที่จะส่งให้เชือกเกิดการสะบัดก็คือมือของคุณ ดังนั้นแรงจริง ๆ
ที่จะใช้ในการเตะขาจะส่งมาจากสะโพก นั่นเอง ในการเตะขาของคุณนั้น
คุณต้องเตะอย่างต่อเนื่อง ถ้าว่ายระยะสั้น คุณต้องเตะอย่างแรงและเร็ว
ไม่ยกเท้าขึ้นสูงพ้นน้ำจนกระทั่งเห็นน่อง
ให้บริเวณข้อเท้าของคุณพ้นน้ำเท่านั้นก็พอแล้ว และเมื่อคุณสะบัดขาลงน้ำ
คุณต้องเตะให้เต็มจังหวะ อย่ายึกยัก หรือเกร็งใด ๆ ทั้งสิ้น
คิดถึงภาพปลาว่ายน้ำเอาไว้ หางปลาที่ส่าย ๆ น่ะ อย่างนั้นแหละครับ
ความสัมพันธ์ของร่างกายในท่าฟรีสไตล์ (Freestyle Relative Action) ท่านี้เป็นท่าที่มีความต่อเนื่องในการทำงานของร่างกายอย่างดี
คุณสามารถว่ายท่านี้ได้อย่างง่ายดาย
แต่คุณต้องพยายามที่รักษาความนิ่มนวลและความพลิ้วไหวในการว่ายด้วย
ถ้าคุณสามารถทำตัวให้ลื่นไหลไปเรื่อย ๆ ได้ก็จะดีมาก
ไม่เพียงแต่ท่าฟรีสไตล์เท่านั้น ทุก ๆ ท่า ก็ต้องนิ่มนวล และพลิ้วไหวเช่นกัน
TIP
OF FREESTYLE
1. คุณต้องไม่เกร็งลำตัวให้แบนราบอยู่กับน้ำตลอด
คุณควรปล่อยไหล่และร่างกายให้เป็นธรรมชาติ
การกลิ้งลำตัวตามธรรมชาตินั้นจะทำให้ว่ายน้ำได้เร็วยิ่งขึ้น
2. การเอียงหน้าหายใจ
ควรทำเมื่อคุณรู้สึกเริ่มที่จะต้องหายใจออกแล้ว
ไม่ใช่กลั้นจนกระทั่งไม่ไหวแล้วจึงเอียงหน้าหายใจ
การกระทำเช่นนี้จะทำให้คุณเสียจังหวะได้
3. ถ้าคุณไม่เอียงหน้าหายใจ
ก็จงรักษาศีรษะให้นิ่ง ๆ เอาไว้ อย่าส่ายหัว เพราะจะทำให้ช้าลง
Swimming
Men's 200m
Freestyle
Final - Agnel wins Gold - London 2012 Olympic Games Highlights
FREESTYLE ฟรีสไตล์
การใช้แขนท่าฟรีสไตล์ (Freestyle Arm Action)
ข้อควรจำ
1. คุณต้องดันน้ำไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว2. เมื่อคุณจะวางแขนลงน้ำเพื่อว่ายต่อไป พยายามอย่าให้แขนฟาดน้ำ ให้ลากศอกและมือแทงลงน้ำไปด้านหน้าอย่างนิ่มนวล
3. เมื่อมือคุณลงน้ำแล้ว
อย่าให้มือชี้ลงไปที่พื้นสระ จงบังคับมือและแขนให้ชี้ไปยังเป้าหมาย คือ
ด้านหน้าของคุณ โดยการยืดแขนออกไปขณะที่มือลงน้ำ ไม่ใช่จิ้มมือลงไปในน้ำ
การใช้ขาท่าฟรีสไตล์ (Freestyle Leg
Action)ในการใช้ขาของท่าฟรีสไตล์
จะเตะขาในลักษณะเตะสลับขึ้นลง ซ้ายขวา โดยที่จะต้องส่งแรงเตะมาจากสะโพก
ไม่ใช่เตะจากหัวเข่า โดยในการเตะขานั้น
ข้อเท้าและหัวเข่าต้องมีความพลิ้วไม่เกร็งเป็นอันขาดจังหวะของการเตะขาท่าฟรีสไตล์มีดังนี้
How
to Swim : How to Swim the Freestyle Stroke
" การเตะขาที่ถูกวิธี จะช่วยทำให้คุณว่ายน้ำได้เร็วและดีขึ้น
เพราะมันจะช่วยให้การทรงตัวของร่างกายคุณสมบูรณ์แบบ "
12345678910จังหวะทั้งหมดเป็นไปโดยต่อเนื่องกันไม่ขาดตอน สังเกตดูว่า
ในภาพไม่ได้เพียงแต่งอเข่าแล้วเตะลงน้ำเท่านั้น แต่เขายังใช้แรงจากสะโพกเข้ามาช่วยด้วย
พูดง่าย ๆ ก็คือ เวลาคุณเตะขาท่าฟรีสไตล์นั้น คุณต้องขยับทั้งขา ยกตัวอย่าง เช่น
ให้สะโพกของคุณเป็นมือ และขาของคุณเป็นเชือก
ถ้าคุณสะบัดมือเชือกทั้งเส้นก็จะวิ่งตามกันไปทั้งหมด แต่แรงจริง ๆ
ที่จะส่งให้เชือกเกิดการสะบัดก็คือมือของคุณ ดังนั้นแรงจริง ๆ
ที่จะใช้ในการเตะขาจะส่งมาจากสะโพก นั่นเอง ในการเตะขาของคุณนั้น
คุณต้องเตะอย่างต่อเนื่อง ถ้าว่ายระยะสั้น คุณต้องเตะอย่างแรงและเร็ว
ไม่ยกเท้าขึ้นสูงพ้นน้ำจนกระทั่งเห็นน่อง
ให้บริเวณข้อเท้าของคุณพ้นน้ำเท่านั้นก็พอแล้ว และเมื่อคุณสะบัดขาลงน้ำ
คุณต้องเตะให้เต็มจังหวะ อย่ายึกยัก หรือเกร็งใด ๆ ทั้งสิ้น
คิดถึงภาพปลาว่ายน้ำเอาไว้ หางปลาที่ส่าย ๆ น่ะ อย่างนั้นแหละครับ
ความสัมพันธ์ของร่างกายในท่าฟรีสไตล์ (Freestyle Relative Action) ท่านี้เป็นท่าที่มีความต่อเนื่องในการทำงานของร่างกายอย่างดี
คุณสามารถว่ายท่านี้ได้อย่างง่ายดาย
แต่คุณต้องพยายามที่รักษาความนิ่มนวลและความพลิ้วไหวในการว่ายด้วย
ถ้าคุณสามารถทำตัวให้ลื่นไหลไปเรื่อย ๆ ได้ก็จะดีมาก
ไม่เพียงแต่ท่าฟรีสไตล์เท่านั้น ทุก ๆ ท่า ก็ต้องนิ่มนวล และพลิ้วไหวเช่นกัน
TIP
OF FREESTYLE
1. คุณต้องไม่เกร็งลำตัวให้แบนราบอยู่กับน้ำตลอด
คุณควรปล่อยไหล่และร่างกายให้เป็นธรรมชาติ
การกลิ้งลำตัวตามธรรมชาตินั้นจะทำให้ว่ายน้ำได้เร็วยิ่งขึ้น
2. การเอียงหน้าหายใจ
ควรทำเมื่อคุณรู้สึกเริ่มที่จะต้องหายใจออกแล้ว
ไม่ใช่กลั้นจนกระทั่งไม่ไหวแล้วจึงเอียงหน้าหายใจ
การกระทำเช่นนี้จะทำให้คุณเสียจังหวะได้
3. ถ้าคุณไม่เอียงหน้าหายใจ
ก็จงรักษาศีรษะให้นิ่ง ๆ เอาไว้ อย่าส่ายหัว เพราะจะทำให้ช้าลง
Swimming
Men's 200m
Freestyle
Final - Agnel wins Gold - London 2012 Olympic Games Highlights
ความคิดเห็น
ปัจจุบันสื่อสารสนเทศมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ด้านต่างๆ
ทำให้เราต้องศึกษาค้นคว้าหาความรู้อยู่ตลอด
สื่อสารสนเทศเป็นส่วนหนึ่งในด้านการเรียนการสอนและการเรียนรู้ สามารถพัฒนาความรู้
ความสามารถของเราให้ดียิ่งขึ้น
จากคลิปดังกล่าว เราสามารถเรียนรู้เทคนิคการว่ายน้ำในด้านต่างๆได้หลายด้าน
เช่น
1.หมุนแขนผ่านใต้น้ำและเหนือน้ำอย่างต่อเนื่อง
2.ขาต้องเตะขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ
3.หายใจเมื่อหมุนหน้าไปด้านข้าง
4.เอียงหัวไหล่ลงเล็กน้อยเมื่อแขนและมือข้างนั้นกำลังผ่านหรือผลักน้ำ
5.เตะขึ้นและลง โดยเตะจากตะโพกลงเท้า
6.ทำตัวสบาย ๆ อย่าเกร็ง
7.วางหน้าอกลงใต้น้ำและก้มหัวลงต่ำเล็กน้อย ตัวจะค่อยๆ สมดุลย์
การนอนคว่ำและเคลื่อนตัวไปข้างหน้าจะเป็นการช่วยสร้างสมดุลย์
เทคนิคแบบนี้เราสามารถเรียนรู้กับสื่อสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ
มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก
เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกวัน
เราควรใช้เทคโนโลยีอย่างระมัดระวังและใช้ไปในทางที่ถูกต้อง
เป็นประโยชน์ในด้านการศึกษา การเรียนรู้ การทำงานในด้านต่างๆ